นอนทับตะวัน ความเชื่อ กับ ความจริง

ปู่ย่าตายายหรือคนแก่ ๆ มักจะบ่นว่าอย่าไปนอนทับตะวันเดียวผีจะเข้าสิง เดียววิญญาณจะออกจ่างร่าง และอีกหลายอย่างที่ใช้ขู่ใว้ไม่ให้ไปหลับในช่วงเย็นที่ยังไม่มืดสนิด ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากลักษณะการใช้ชีวิตของโบราณที่ทุกคนต้องปากกัดตีนถีบ ดังนั้นการนอนในช่วงเย็นจึงเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยควรทำเท่าไหร่ แต่ในความเชื่อเหล่านี้ก็ยังมีความคิดทางวิทยาศาสตร์ที่นำมาใช้กล่องรับได้ ซึ่งปู่ย่าตายายในสมัยเก่ามักจะคิดว่าการนอนทับตะวันมีส่วนให้ไหลตายหรือหลับแล้วไม่ตื่นอีกเลย
ความจริงของกุศโลบายนี้คือการปลูกฝังให้คนวัยหนุ่มสาวรู้จักทำงานบ้านงานเรือน เพราะในช่วงกลางวันคนเหล่านี้ก็มีหน้าที่ออกไปทำงานนอกบ้านตั้วแต่การเพาะปลูก การค้าขายสินค้า ไปจนถึงการรับจ้าง จึงใช้เวลาในช่วงนี้ในการทำความสะอาดบ้านเรือนให้ นอกจากนี้หลังจากช่วงเย็นก็ถือเป็นช่วงที่หลังรับประทานอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมเท่าไหร่ถ้าจะนอนหลับในขณะที่ร่างกายย่อยอาหารอยู่
ในช่วงเย็นที่ตะวันไม่ตกดินยังมีแสงสว่างที่ส่งผลต่อการนอนได้ สมองของเรามีการทำงานโดยอ้างอิงเวลาจากต่อมใต้สมองที่เรียกว่าต่อมไพเนียล ต่อมใต้สมองนี้อาจจะถูกเรียกอีกชื่อว่าเป็นนาฬิกาชีวิตที่จะคอยกำหนดให้ร่างกายรู้ว่าเวลาไหนควรทำอะไร ควรหรับหรือควรตื่น ถ้าหากหลับนอนไม่เป็นเวลาทำให้สมองทำงานผิดปกติและสุขภาพไม่ดีตามมา ตากสภาพเหล่านี้ยังมีโอกาศจะนอนแล้วถ้าเป็นสมัยก่อนก็ต้องคิดว่าเป็นอาการผีเข้านั่นเอง